วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สาส์นจาก จิมมี่ เวลส์ ผู้ก่อตั้งวิกิพีเดีย
เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมถูกมองว่าเป็นตัวตลกเมื่อผมพูดคุยกับหลายๆ คนเกี่ยวกับวิกิพีเดีย เพียงแค่พูดถึงรูปแบบทางธุรกิจก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเพ้อฝันแล้ว ที่จะมีอาสาสมัครจากทั่วโลกมารวมตัวกัน และสร้างฐานของความรู้ของมวลมนุษย์ทั้งหมด เพียงเพื่อประโยชน์อย่างเดียวคือการแบ่งปัน
ไม่มีโฆษณา ไม่แสวงหากำไร ไม่มีขอบเขตของบทความ
หนึ่งทศวรรษผ่านมา ผู้คนมากกว่า 380 ล้านคนใช้วิกิพีเดียทุกเดือน - นั่นคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของโลก
วิกิพีเดียเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมอันดับห้าของโลก เว็บไซต์สี่อันดับแรกมีเงินลุงทุนนับพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างและดูแลระบบ รวมไปถึงพนักงานในองค์กรจำนวนมาก และการทำการตลาดอย่างยิ่งใหญ่
แต่ วิกิพีเดียไม่ได้เป็นเว็บไซต์เพื่อการพาณิชย์ มันคือความคิดสร้างสรรค์จากกลุ่มประชาคม เขียนโดยอาสาสมัครหลายคนต่อหนึ่งหัวข้อ และท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประชาคมของเราเช่นเดียวกัน ผมเขียนจดหมายในวันนี้ก็เพื่อที่จะขอให้ท่านปกป้องและทำให้วิกิพีเดียอยู่อย่างมั่นคงต่อไป
ช่วงเวลานี้ในทุกปี เราจะขอให้คุณและบุคคลท่านอื่นๆ ในประชาคมวิกิพีเดียช่วยให้องค์กรนี้อยู่อย่างยั่งยืนด้วยการบริจาคเพียง 20, 35, หรือ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่านี้ก็ได้
ถ้าคุณเห็นคุณค่าของวิกิพีเดียในการเป็นแหล่งข้อมูล และเป็นแหล่งความคิดสร้างสรรค์ ผมหวังว่าคุณคงเลือกที่จะช่วยเหลือเรา ณ บัดนี้เป็นต้นไป
ด้วยความเคารพ
Jimmy Wales (จิมมี่ เวลส์)
ผู้ก่อตั้งวิกิพีเดีย
ป.ล. วิกิพีเดียเป็นที่ที่คนอย่างเราทำในสิ่งที่น่าอัศจรรย์ คนอย่างเราเขียนวิกิพีเดีย คนอย่างเราช่วยสนับสนุนทางการเงินโดยการบริจาค นั่นคือข้อพิสูจน์ถึงแรงผลักดันที่สะสมต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
ไม่มีโฆษณา ไม่แสวงหากำไร ไม่มีขอบเขตของบทความ
หนึ่งทศวรรษผ่านมา ผู้คนมากกว่า 380 ล้านคนใช้วิกิพีเดียทุกเดือน - นั่นคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของโลก
วิกิพีเดียเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมอันดับห้าของโลก เว็บไซต์สี่อันดับแรกมีเงินลุงทุนนับพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างและดูแลระบบ รวมไปถึงพนักงานในองค์กรจำนวนมาก และการทำการตลาดอย่างยิ่งใหญ่
แต่ วิกิพีเดียไม่ได้เป็นเว็บไซต์เพื่อการพาณิชย์ มันคือความคิดสร้างสรรค์จากกลุ่มประชาคม เขียนโดยอาสาสมัครหลายคนต่อหนึ่งหัวข้อ และท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประชาคมของเราเช่นเดียวกัน ผมเขียนจดหมายในวันนี้ก็เพื่อที่จะขอให้ท่านปกป้องและทำให้วิกิพีเดียอยู่อย่างมั่นคงต่อไป
ช่วงเวลานี้ในทุกปี เราจะขอให้คุณและบุคคลท่านอื่นๆ ในประชาคมวิกิพีเดียช่วยให้องค์กรนี้อยู่อย่างยั่งยืนด้วยการบริจาคเพียง 20, 35, หรือ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่านี้ก็ได้
ถ้าคุณเห็นคุณค่าของวิกิพีเดียในการเป็นแหล่งข้อมูล และเป็นแหล่งความคิดสร้างสรรค์ ผมหวังว่าคุณคงเลือกที่จะช่วยเหลือเรา ณ บัดนี้เป็นต้นไป
ด้วยความเคารพ
Jimmy Wales (จิมมี่ เวลส์)
ผู้ก่อตั้งวิกิพีเดีย
ป.ล. วิกิพีเดียเป็นที่ที่คนอย่างเราทำในสิ่งที่น่าอัศจรรย์ คนอย่างเราเขียนวิกิพีเดีย คนอย่างเราช่วยสนับสนุนทางการเงินโดยการบริจาค นั่นคือข้อพิสูจน์ถึงแรงผลักดันที่สะสมต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เฮ!+ใหญ่ๆๆๆ มือถือ เติมเงิน ไม่โดนยึดเงินแล้ว เงินเหลือเท่าไหร่อยู่ครบ ชะ ชะ ช่า
กมธ.สื่อสารฯ สภาฯ ไล่บี้บริษัทมือถือคืนเงินคงเหลือจากบัตรเติมเงินให้ผู้ใช้บริการ คาดมีนับหมื่นล้านบาท ที่ถูกงุบงิบเข้ากระเป๋าโดยมิชอบ รมว.ไอซีที รับลูกเตรียมเรียกทีโอที-กสท-กทช.ถกหาข้อสรุป “นพ.บุรณัชย์” ชี้กฎหมายระบุชัดไม่ให้กำหนดระยะเวลาในการให้บริการกรณีเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าหรือใช้บัตรเติมเงิน ขู่หากยังทำเฉยไม่บังคับใช้กฎหมาย กทช.เจอข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่แน่
ที่รัฐสภา วันนี้ (3 พ.ย.) คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา ติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติงานขององค์กรการสื่อสาร สารนเทศและโทรคมนาคม ในคณะ กมธ.การสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายสุริยา พรหมดี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานอนุ กมธ.เปิดเผยว่า คณะอนุ กมธ.ได้ยื่นผลการศึกษาเกี่ยวกับการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้า (พรีเพรด) หรือบัตรเติมเงิน ให้แก่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยมีประเด็นสำคัญว่าเงินที่เหลือจากการเติมเงินทั้งในเบอร์โทร.ของผู้ที่ปิดใช้บริการและผู้ที่ใช้ไม่หมดตามระยะเวลาที่กำหนดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด โดยมีข้อสรุปที่น่าสนใจ คือ เงินที่เหลือดังกล่าวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใช้บริการ แต่ข้อเท็จจริงจากการพิจารณาปรากฏว่าแต่ละผู้ประกอบการมีการลงบัญชีที่แตกต่างกัน โดยเอไอเอสและดีแทคลงบัญชีว่าเป็นรายได้ของบริษัท ขณะที่ทรูมีการลงบัญชีเป็นรายการที่ยังไม่รับรู้รายได้ ทั้งที่รายได้ในส่วนนี้มีที่มาที่เหมือนกัน และคาดว่าน่าจะมีมูลค่ามหาศาล
นายเชน เทือกสุบรรณ ในฐานะรองประธานคณะ กมธ.กล่าวว่า เนื่องจากเงินที่เหลือนั้นมีจำนวนคาดว่าเป็นหมื่นล้าน ซึ่งถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใช้บริการ จึงอยากให้มีการคืนให้แก่ผู้ใช้บริการหรืออย่างน้อยที่สุดให้นำมาสร้างประโยชน์ให้แก่สาธารณะมากกว่านำไปเป็นรายได้ของบริษัท
โดย นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที เป็นผู้รับรายงานผลการพิจารณาจากคณะ กมธ.ด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากเงินในส่วนนี้อาจเป็นการขยายเครือข่ายโทรคมนาคมไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหากผลการศึกษาระบุว่าเงินในส่วนนี้ถือเป็นลาภที่ไม่ควรได้ของบริษัทผู้ให้บริการก็ควรคืนให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยตนจะนำเรื่องไปดำเนินการโดยเร็ว โดยเชิญเข้าของเครือข่าย คือ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) รวมทั้งผู้ประกอบการ เข้าร่วมหารือและทำการศึกษาเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ทางด้าน นพ.บูรณัชย์ สมุทรรักษ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะ กมธ.กล่าวว่า ตามประกาศ กทช.เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 11 ระบุชัดเจนว่าผู้ให้บริการต้องไม่กำหนดระยะเวลาการใช้บริการในกรณีเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้า หรือใช้บัตรเติมเงิน ซึ่งที่ผ่านมาทางกรรมาธิการได้เชิญผู้แทน กทช.ให้เข้าร่วมชี้แจงในกรณีดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งหาก กทช.ไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็อาจจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้
นายจุติให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ในพื้นภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ที่ส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้รับรายงานว่าเสาส่งสัญญาณหรือ Cell Site ของเครือข่ายเอไอเอส ที่มี 400 กว่าจุด และของดีแทคที่มีอยู่ 200 กว่าจุด ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว เนื่องจากมีการตัดไฟฟ้า และแบตเตอรี่ที่ใช้สามารถใช้งานได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น โทรศัพท์เครือข่ายของทั้งเอไอเอสและดีแทคจำเป็นต้องมาใช้สัญญาณของทีโอที จึงเกิดเป็นจราจรแบบคอขวด ทำให้สัญญาณเต็ม ไม่ใช่ล่มอย่างที่เข้าใจ
โดยขณะนี้การติดต่อสื่อสารในพื้นที่ทำได้โดยการใช้วิทยุวอล์กกี้ทอล์กกี้ ของสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทยที่มีเครือข่ายอยู่ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ รวมไปถึงโทรศัพท์บ้านในเครือข่ายของทีโอทีที่ยังสามารถใช้การได้อยู่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มีพื้นที่เกาะยอ จ.สงขลาเท่านั้นที่ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะน้ำเข้ามาท่วมอย่างรวดเร็วและสูงมาก อย่างไรก็ตาม แม้ไม่สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ขอแนะนำให้หันมาใช้บริการข้อความสั้น (SMS) หรือโทรศัพท์บ้านแทน โดยผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือทาง SMS ได้ที่เบอร์ 4567891 ซึ่งจะส่งมาที่ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ รวมทั้งโทรทัศน์ช่อง 9 และช่อง 11 อีกด้วย
กมธ.สภาฯ บี้ บ.มือถือคืนเงินคงเหลือที่ได้จากบัตรเติมเงินให้ผู้ใช้บริการ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์3 พฤศจิกายน 2553 16:02 น.
ที่รัฐสภา วันนี้ (3 พ.ย.) คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา ติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติงานขององค์กรการสื่อสาร สารนเทศและโทรคมนาคม ในคณะ กมธ.การสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายสุริยา พรหมดี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานอนุ กมธ.เปิดเผยว่า คณะอนุ กมธ.ได้ยื่นผลการศึกษาเกี่ยวกับการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้า (พรีเพรด) หรือบัตรเติมเงิน ให้แก่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยมีประเด็นสำคัญว่าเงินที่เหลือจากการเติมเงินทั้งในเบอร์โทร.ของผู้ที่ปิดใช้บริการและผู้ที่ใช้ไม่หมดตามระยะเวลาที่กำหนดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด โดยมีข้อสรุปที่น่าสนใจ คือ เงินที่เหลือดังกล่าวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใช้บริการ แต่ข้อเท็จจริงจากการพิจารณาปรากฏว่าแต่ละผู้ประกอบการมีการลงบัญชีที่แตกต่างกัน โดยเอไอเอสและดีแทคลงบัญชีว่าเป็นรายได้ของบริษัท ขณะที่ทรูมีการลงบัญชีเป็นรายการที่ยังไม่รับรู้รายได้ ทั้งที่รายได้ในส่วนนี้มีที่มาที่เหมือนกัน และคาดว่าน่าจะมีมูลค่ามหาศาล
นายเชน เทือกสุบรรณ ในฐานะรองประธานคณะ กมธ.กล่าวว่า เนื่องจากเงินที่เหลือนั้นมีจำนวนคาดว่าเป็นหมื่นล้าน ซึ่งถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใช้บริการ จึงอยากให้มีการคืนให้แก่ผู้ใช้บริการหรืออย่างน้อยที่สุดให้นำมาสร้างประโยชน์ให้แก่สาธารณะมากกว่านำไปเป็นรายได้ของบริษัท
โดย นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที เป็นผู้รับรายงานผลการพิจารณาจากคณะ กมธ.ด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากเงินในส่วนนี้อาจเป็นการขยายเครือข่ายโทรคมนาคมไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหากผลการศึกษาระบุว่าเงินในส่วนนี้ถือเป็นลาภที่ไม่ควรได้ของบริษัทผู้ให้บริการก็ควรคืนให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยตนจะนำเรื่องไปดำเนินการโดยเร็ว โดยเชิญเข้าของเครือข่าย คือ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) รวมทั้งผู้ประกอบการ เข้าร่วมหารือและทำการศึกษาเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ทางด้าน นพ.บูรณัชย์ สมุทรรักษ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะ กมธ.กล่าวว่า ตามประกาศ กทช.เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 11 ระบุชัดเจนว่าผู้ให้บริการต้องไม่กำหนดระยะเวลาการใช้บริการในกรณีเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้า หรือใช้บัตรเติมเงิน ซึ่งที่ผ่านมาทางกรรมาธิการได้เชิญผู้แทน กทช.ให้เข้าร่วมชี้แจงในกรณีดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งหาก กทช.ไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็อาจจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้
นายจุติให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ในพื้นภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ที่ส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้รับรายงานว่าเสาส่งสัญญาณหรือ Cell Site ของเครือข่ายเอไอเอส ที่มี 400 กว่าจุด และของดีแทคที่มีอยู่ 200 กว่าจุด ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว เนื่องจากมีการตัดไฟฟ้า และแบตเตอรี่ที่ใช้สามารถใช้งานได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น โทรศัพท์เครือข่ายของทั้งเอไอเอสและดีแทคจำเป็นต้องมาใช้สัญญาณของทีโอที จึงเกิดเป็นจราจรแบบคอขวด ทำให้สัญญาณเต็ม ไม่ใช่ล่มอย่างที่เข้าใจ
โดยขณะนี้การติดต่อสื่อสารในพื้นที่ทำได้โดยการใช้วิทยุวอล์กกี้ทอล์กกี้ ของสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทยที่มีเครือข่ายอยู่ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ รวมไปถึงโทรศัพท์บ้านในเครือข่ายของทีโอทีที่ยังสามารถใช้การได้อยู่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มีพื้นที่เกาะยอ จ.สงขลาเท่านั้นที่ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะน้ำเข้ามาท่วมอย่างรวดเร็วและสูงมาก อย่างไรก็ตาม แม้ไม่สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ขอแนะนำให้หันมาใช้บริการข้อความสั้น (SMS) หรือโทรศัพท์บ้านแทน โดยผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือทาง SMS ได้ที่เบอร์ 4567891 ซึ่งจะส่งมาที่ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ รวมทั้งโทรทัศน์ช่อง 9 และช่อง 11 อีกด้วย
กมธ.สภาฯ บี้ บ.มือถือคืนเงินคงเหลือที่ได้จากบัตรเติมเงินให้ผู้ใช้บริการ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์3 พฤศจิกายน 2553 16:02 น.
TOP 10 + 10 เหตุผลที่ควรใช้ Gmail
1. ให้พื้นที่ฟรี ถึง 2.8 GB (และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) พื้นที่เยอะขนาดนี้ คุณสามารถเก็บอีเมลได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องลบทิ้งอีกแล้ว | |
2. รองรับการใช้งานภาษาไทย เปลี่ยนภาษาบนหน้าจอเป็นอังกฤษหรือไทยตามใจคุณ และแน่นอน Gmail รองรับการส่งข้อความด้วยภาษาไทย | |
3. หาอีเมลกี่ครั้งก็เจอ ด้วยระบบเสิร์ซอัจฉริยะของ Google คุณก็หาอีเมลหรือแชท ได้เร็วเพียงแค่พริบตา | |
4. หมดกังวลเรื่องสแปม Gmail บล็อกสแปมก่อนที่มันจะเข้าอินบ็อกของคุณ | |
5. คุยกับเพื่อนได้ในทันที โปรแกรมแชทและอีเมลที่ติดตั้งมาพร้อมกัน ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอสลับไปมาให้ยุ่งยากอีกแล้ว | |
6. เช็คเมลผ่านมือถือ อ่าน Gmail บนมือถือได้ง่ายๆ เพียงแค่ใส่ URL http://gmail.com/app บนมือถือของคุณ | |
7. จัดอีเมลเรื่องเดียวกันให้เป็นหนึ่งเดียว อีเมลเรื่องเดียวกันที่มีการโต้ตอบไปมาหลายครั้งจะถูกจัดเก็บไว้ด้วยกันโดยอัตโนมัติ คุณจึงหาและอ่านอีเมลทั้งหมดได้ทันที | |
8.เซฟอัตโนมัติ Gmail ช่วยเซฟและบันทึกร่างอีเมลที่กำลังเขียนอยู่โดยอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องเขียนอีเมลค้างไว้แล้วหายไปก่อนส่งออก | |
9. Labels จัดระเบียบให้อีเมลของคุณแบบง่ายๆ ด้วยการแยกเก็บไว้ใน Label | |
10. เปลี่ยนมาใช้ Gmail ง่ายแค่คลิ๊ก โอนถ่ายข้อมูลติดต่อทั้งหมดจาก Outlook, Hotmail, Yahoo! และอีเมลอื่นๆ เข้ามาใช้ใน Gmail http://mail.google.com/mail/help/intl/th/open.html |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)