วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เจ้าแม่ทับทิม อ.บ้านนา จ.นครนายก


http://www.google.com/search/peerapan1000 

เคยเขียนถึงเจ้าแม่ทับทิมและเล่าถึงเจ้าแม่ทับทิมมาแล้วบ้าง แต่พบว่าคนส่วนใหญ่ ก็ยังคงสับสนเรื่องประวัติเจ้าแม่ทับทิม โดยเฉพาะการที่เมืองไทยมีศาลเจ้าแม่ทับทิมหลายแห่ง เอาง่ายๆ ผู้เขียนซึ่งมีร้านดอกไม้ด้วย ทำให้ต้องไปเดินสำเพ็ง-พาหุรัดเสมอ เฉพาะย่านนี้ก็มีศาลเจ้าแม่ทับทิม 2 ศาล
ศาลหนึ่งเป็น เทียนโหวเซี้ยบ้อ
อีกศาลเป็น จุ้ยบ้วยเซี้ยเนี้ย
เรียกไม่เหมือนกัน แล้วที่ปัตตานีก็มีศาลเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว คนไทยนิยมเรียกว่า เจ้าแม่ทับทิมเช่นกัน ซึ่งบางท่านเข้าใจว่าเป็นเจ้าแม่องค์เดียวกับของเมืองจีนก็มี ปรากฏว่าเป็นคนละองค์กัน
เนื่องจากว่าวันเกิดเจ้าแม่ทับทิมคือวันที่ 6 เดือน 1 ของจีน เป็นเทศกาลใหญ่ ทั้งที่ฮ่องกงและไต้หวัน ที่อื่นก็มีไหว้เช่นกัน จึงขอเล่าประวัติและความเป็นมาของตำนานเพื่อให้กระจ่างไปเลย
ก่อนจะเขียนเรื่องเจ้าแม่ ผู้แน่แท้ว่ายิ่งใหญ่
ศักดิ์สิทธิ์ในจิตใจ ลูกหลานจีนไทยสืบมา
ลูกขอไหว้คุณครู บูชาเจ้าแม่ทับทิมหนา
กราบเทพไท้เทวา ให้ข้าน้อยกระจ่างความ
ให้ความรู้รู้แจ้ง ปัญญาแทงอย่างสวยงาม
อักษรที่จารตาม กระจ่างประวัติชัดเข้าใจ
ก่อนจะเล่าเข้าเรื่องประวัติเจ้าแม่ ซึงเกิดเมื่อวันที่ 6 เดือน 1 ของจีน ปีพ.ศ. 1503 ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยเล่าถึงเจ้าน้ำไปแล้วว่า คนจีนนับถือหลายองค์เลยคือ
เจ้าคงคา (เป็นเจ้าพ่อ)
พระแม่คงคา
เทพเจ้าน้ำธรรมชาติ (เจ้าบ่อน้ำบาดาล)
เทพเจ้าคลื่น
เจ้าสมุทร (พญามังกร)
ดังนั้น จะเห็นได้ชัดเลยว่า คนจีนแต่โบราณนับถือเทพเจ้าอย่างแยกแยะรายละเอียด ไม่ใช่องค์เดียวกันเหมารวม ในกรณีของเจ้าแม่ทับทิมซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ได้ก่อเกิดการแตกแขนงเป็นเจ้าแม่ทับทิมใน 3-4 ทาง ดังนี้คือ
เจ้าแม่ทับทิมซึ่งมีประวัติเป็นของจริง มีปาฏิหาริย์เล็กน้อย
เจ้าแม่ทับทิมที่มีประวัติมากมาย ตำราเล่มหนึ่งของผู้เขียนบอกว่า มีปาฏิหาริย์ช่วยคนถึง 48 กรณี ซึ่งจะมีประมาณ 35 บันทึกเป็นการช่วยคนทางน้ำ
ข้อ 1-2 นี้ จะมีฉายายกย่องท่านว่าเป็น เทียน โหว เซี้ย บ้อ หรือ Empress of Heaven แปลเป็นไทยง่ายๆ คือ เจ้าแม่สวรรค์
เป็นกรณีที่ชาวบ้านพบขอนไม้ลอยน้ำมา แล้วนำมาแกะสลักเป็นเจ้าแม่ทับทิม หากเป็นแบบนี้ชาวบ้านนิยมเรียกว่า จุ้ย บ้วย เซี่ย เนี้ย
ท้องที่ใดมีประวัติสตรีผู้ทรงคุณงามความดี เมื่อเสียชีวิตไปชาวบ้านสร้างศาลเจ้าให้ แล้วกราบไหว้ยกย่อง อาจเรียกเป็น เจ้าแม่ทับทิมเพื่อตามกระแสที่มีอยู่เดิม เช่นกรณีศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่ปัตตานี
กำเนิดเจ้าแม่ทับทิมที่เมืองจีน
เจ้าแม่ทับทิมที่เมืองจีนเป็นชาวฮกเกี๋ยน คือเกิดที่เกาะหมีจิว ในมณฑลฮกเกี๋ยน เป็นคนแซ่ลิ้ม ซึ่งภาษาจีนกลางออกเสียงว่า หลิน พ่อชื่อลิ้มเฮ้ง แม่ชื่อลิ้มยุ้ย เกิดเมื่อวันที่ 6 เดือน 1 ของจีน (พ.ศ. 1503 เป็นสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ) โดยมีเรื่องเล่าถึงขณะเกิดเพื่อให้มีปาฏิหาริย์พิเศษกว่าเด็กแรกเกิดทั่วไปว่า เจ้าแม่กวนอิมได้มาเฝ้าดูเป็นสักขีพยาน
พ่อตั้งชื่อให้ลูกสาวที่เกิดมาว่า ลิ้มมิก
มิก คำนี้จีนกลางออกเสียงว่า โม่ แปลว่า เงียบ เพราะช่วงวัยเดือนแรกที่เกิด หนูน้อยลิ้มมิกเงียบมาก ไม่เคยร้องไห้เลย อย่างไรก็ตาม เมื่อลิ้มมิกโตขึ้นมา หนุน้อยเป็นเด็กฉลาดมาก และแม้จะเป็นลูกสาว พ่อที่แสนดีก็อนุญาตให้ลิ้มมิก ได้เรียนหนังสือและค่อนข้างเลี้ยงไม่ต่างไปจากลูกชาย ได้โลดโผนโจนทะยานแก่นแก้ว ที่สำคัญ ลิ้มมิก ได้ออกทะเลกับพ่อและพี่ชายเสมอ
เมื่อโตขึ้นมา ลิ้มมิกจึงว่ายน้ำเก่งและแข็งด้วย สามารถว่ายโต้คลื่นใหญ่ๆได้ ยามใดเกิดมีเรือประสบภัยพายุ ไม่ว่าจะเป็นเรือประมงหรือเรือสินค้า ลิ้มมิก ก็กล้ามากกับการว่ายน้ำออกไปช่วยเหลือคนเรือแตกให้รอดเข้าฝั่งได้
ตำนานเล่าว่า ลิ้มมิก เป็นคนมีความสามารถพิเศษชัดเจน ใน 2 เรื่อง
นางมีสัญชาตญาณในเรื่องของดินฟ้าอากาศดีมาก สามารถคาดคะเนการเปลี่ยนสภาพอากาศได้ค่อนข้างแม่น แล้วได้ใช้สัมผัสพิเศษนี้เตือนชาวเรือเรื่อยมา
นางมีความรู้เรื่องแพทย์อย่างน่าอัศจรรย์ ได้ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ชาวบ้านเสมอ
นอกจากนี้ นางยังเป็นผู้ฝักใฝ่ในธรรม ถือศิลกินเจอย่างเคร่งครัด นางจึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านมาก ถึงกับเรียกลิ้มมิกว่า หญิงผู้วิเศษ บ้าง ธิดามังกรบ้าง และนางเทพธิดาบ้าง น่าเสียดายที่ลิ้มมิก เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย บางตำราว่าเสียเมื่ออายุ 18 บ้างก็ว่าเมื่ออายุ 28
สาเหตุของการถึงแก่กรรม มีเล่าไว้ 3 แบบ
แบบหนึ่งบอกว่า เพราะนางทานน้อยเกินไป และกินเจอย่างเดียว อาจทำให้สารอาหารที่ร่างกายได้รับ ไม่เพียงพอ ซึ่งกรณีนี้คนส่วนใหญ่ค่อนข้างจะยอมรับไม่ได้ และนิยมจะเชื่อในอีก 2 แบบของการเสียชีวิตของเจ้าแม่ว่า
นางถึงแก่กรรมแบบหลับไปเอง โดยในวันที่นนางจากไป ก็มีปาฏิหาริย์ให้ชาวบ้านได้โจษจันเหมือนในวันเกิดว่า เห็นเมฆหลากสี คนจีนเรียกว่า เซี้ยงฮุ้ง เป็นเมฆมงคลลอยมาจากภูเขาใกล้ๆ และได้ยินเสียงมโหรีแว่วๆ อยู่นาน
แต่บางตำราบอกว่า ก่อนเสียชีวิต นางฝันว่าพ่อและพี่ชายไปออกทะเลหาปลา แล้วเจอพายุใหญ่ เธอก็พยายามออกไปช่วย ขณะที่กำลังจะช่วยได้สำเร็จ แม่ก็มาปลุกให้ตื่นเสียก่อน ปรากฏว่าอีก 2 วันต่อมา เหตุการณ์ในฝันก็เกิดขึ้นจริงแก่พ่อและพี่ชาย ทั้งสองถูกพายุและคลื่นล่มเรือจนแตกและจมหายไป ลิ้มมิก เสียใจมากที่ไม่อาจช่วยบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งได้ นางตรอมใจตาย
ชาวบ้านที่ล้วนรักใคร่เคยได้รับความช่วยเหลือจากนางเสมอมา พากันยกย่องให้เป็น “ หม่าโจ้ว ” แปลง่ายๆว่า เจ้าแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ มีการตั้งศาลเจ้าเพื่อกราบไหว้ แล้วต่อมาก็มีคนท้องถิ่นอื่น สร้างศาลเจ้าให้เจ้าแม่ตามๆกัน พร้อมกับตำนานเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์และความเมตตาชอบช่วยเหลือคนของเจ้าแม่ มาช่วยเสริมเพิ่มศรัทธา ชาวบ้านพากันนับถือเจ้าแม่มากขึ้นๆ
ตำนานเล่าลือว่า สมัยช่วงราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503- 1822) การค้าทางทะเลกับต่างประเทศของจีน แถบมณฑลฮกเกี๋ยน เจริญมาก เวลาที่เรือเกิดประสบภัย ชาวเรือนิยมสวดมนต์ถึงหม่าโจ้ว แล้วก็มักรอดภัยมาได้ ก็เล่ากันปากต่อปาก
ครั้งหนึ่งประมาณปี พ.ศ. 1665 ซ่งอุยฮ่องเต้ ได้ส่งทูตไปเจริญไมตรีกับเกาหลี ระหว่างทางขบวนเรือของคณะทูต เจอพายุกลางทะเล ขบวนเรือทั้งหมด 8 ลำ จมหายไป 7 ลำ เหลือรอดเพียงลำเดียว ซึ่งบังเอิญเป็นลำที่ทูตลู่หยุนตี้ โดยสารอยู่ ท่านทูตตื้นตันใจมากที่รอดชีวิต ถึงกับรำพึงออกมาดังๆว่า เป็นเทพเจ้าองค์ใดหนอ ที่มาช่วยไว้
ลูกเรือคนหนึ่งเป็นชาวฮกเกี๋ยนตอบไปทันใดไม่ลังเลว่า เป็นเจ้าแม่หม่าโจ้วมาช่วยเป็นแน่แท้ เมื่อทูตลู่หยุนตี้ กลับถึงจีน ได้กราบทูลเรื่องราวการผจญภัยแล้วรอดมาได้ ให้ฮ่องเต้ฟัง ฮ่องเต้ประทับใจมาก โปรดให้อาลักษณ์เขียนป้ายคำว่า ซุ่นจี แปลว่า ช่วยเหลือ สงเคราะห์ พระราชทานให้ไปติดไว้ที่หน้าศาลเจ้าแม่บนเกาะหมีจิว พร้อมพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นท่านผู้หญิงซุ่นจี
แล้วความนับถือศรัทธาในเจ้าแม่ทับทิม ก็เข้าสู่ราชสำนักแต่นั้นมา
48 ปาฏิหาริย์เจ้าแม่ทับทิม
เจ้าแม่ทับทิมน่าจะเป็นอีกตัวอย่างที่ดีในจิตนาการอันเพริศแพร้วของคนโบราณ เล่าขานจนคนสามัญกลายเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จนผู้คนเชื่อถือศรัทธาฝังใจเชื่อจริงๆ ก็คงเล่ากันไปในแต่ละเวลาและสถานที่ แล้วในภายหลังจึงมีผู้รวบรวมบรรดานิทาน ตำนาน เรื่องเล่าถึงเจ้าแม่ทับทิม
ปรากฏว่ามี 48 ปาฏิหาริย์ โดยผู้เขียนขอสรุปเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า 48 ปาฏิหาริย์ของเจ้าแม่ทับทิม สะท้อน logic ของคนโบราณอย่างนี้ว่า
1. การเกิดของผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าแม่ ย่อมต้องพิเศษกว่าคนธรรมดา เกิดเป็นตำนานเล่าว่า พ่อแม่ของท่านคือ ลิ้มเฮ้ง และ ลิ้มยุ้ย ได้ไปบนบานไหว้เจ้าแม่กวนอิมเพื่อขอลูกสาว แล้วก็ได้ตั้งครรภ์สืบมา และในวันเกิดหรือวันที่นางลิ้มยุ้ย คลอดหนูน้อยลิ้มมิก หรือเจ้าแม่ทับทิม เจ้าแม่กวนอิมได้มาดูแลคุ้มครองตลอดเวลา จนทารกได้ออกมาดูโลกอย่างปลอดภัย
จากนั้นก็คือ การเจริญเติบโตของเด็กหญิงที่มีแม่ทัพเทพยดาคอยปกปักรักษา คุ้มครอง จนอายุ 8 ขวบ ก็เริ่มเรียนและเล่นอย่างเด็กผู้ชาย เพราะติดพี่ชายนั่นเอง
ว่ากันว่าขณะอายุ 13 ขวบ มีนักพรตชรามาหาที่บ้านพร้อมทำนายอนาคตหนูลิ้มมิก ว่า จะสูงส่ง ทำคุณความดียิ่งใหญ่ นักพรตเฒ่าได้สอนสรรพวิชาพร้อมมอบตำราให้เล่าหนึ่ง เมื่อลิ้มมิก อายุได้ 16 ปี ก็เลื่องลือไปทั่วทั้งหมู่บ้านแล้วว่า นางเป็นผู้มีญาณวิเศษ
2. ปาฏิหาริย์ในการช่วยคนของเจ้าแม่ทับทิม ย่อมต้องครบถ้วนทั้งการช่วยคนใกล้ตัวคือ พ่อและพี่ชาย ตลอดจนคนไกลตัวในเวลาและสถานที่ต่างๆ ในสถานการณ์ต่างๆ ช่วยทั้งในทะเล, ในห้วงน้ำอื่นๆ ปาฏิหาริย์เรื่องการแก้ไขปัญหาดิน ฟ้า อากาศ หลากหลายแบบเช่น ฝนแล้งก็ช่วยได้ ฝนตกมากไปก็ช่วยได้
•  เจ้าแม่เก่งกระทั่งการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
•  ช่วยเรื่องการทำงานเช่น ช่วยขุดหาตาน้ำในพื้นที่แล้วถาวร
•  ช่วยจับโจรป่า
3. ปาฏิหาริย์ในมิติอัศจรรย์ คือ การปราบภูตผี การได้บริวารเป็นเทพยดาตาทิพย์ เห็นไกลพ้นลี้ และหูทิพย์ ฟังไกล นอกจากนี้ยังมีทีม 18 องครักษ์แม่ทัพเทวดา กระทั่งพญามังกรก็มาเข้าเฝ้าปวารณาตนช่วยเจ้าแม่ จึงขอแบ่งหมวดหมู่ความดีจาก 48 ปาฏิหาริย์ของเจ้าแม่ทับทิม ดังนี้
- การช่วยคนประสบภัยทางน้ำ
1. การช่วยพ่อแม่และพี่ชาย
2. ช่วยพ่อค้าประสบภัยทางทะเลหลายครั้ง
3. ช่วยคนเรือเสีย, เรือแตกหลายครั้ง
4. ใช้ร่างเจ้าแม่ถ่วงเป็นสมอเรือ
5. ทรงชุดแดงช่วยทูตลู่หยุ่นตี้ เมื่อ พ.ศ. 1665
6. ช่วยขันทีซัมปอกงระหว่างนำกองเรือเดินทางไปในดินแดนไกลโพ้น เมื่อ พ.ศ. 1948
7. ช่วยญี่ปุ่นเรือแตก
8. เป็นหางเสือเรือในราตรีแก่ผู้ประสบภัย
9. ช่วยลากเรือเข้าคุงน้ำ
- การช่วยชาวบ้านในเรื่องวิถีชีวิตและการทำมาหากิน
1. ช่วยชาวเกาะหมีจิวเรื่องการเกษตรกรรม
2. ช่วยให้ฝนที่แล้ง ให้ตกหลายครั้ง
3. ช่วยหยุดฝนที่กระหน่ำตกนานเกินไปหลายครั้ง
4. ช่วยหาตาน้ำในดินแดนที่แล้งหลายครั้ง
5. ช่วยสร้างทำนบกั้นน้ำ
6. ช่วยขุดบ่อน้ำ
7. บันดาลท้องฟ้าให้ปลอดโปร่ง
8. บอกให้ชาวบ้านรู้ล่วงหน้าถึงน้ำขึ้นน้ำลง
- การช่วยชาวบ้านในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ จะมีหลายครั้งมาก
- การช่วยบรรเทาทุกข์ชาวบ้านในเรื่องโจรภัย มี 2-3 ครั้ง
- ปาฏิหาริย์ในสิ่งลี้ลับ มีหลายเรื่อง
1. การมาเฝ้าของพญามังกร
2. ได้ 2 บริวารตาทิพย์เห็นไกล และหูทิพย์ฟังไกล
3. ได้องครักษ์ 18 แม่ทัพเทวดา
4. ช่วยไล่ผีให้ชาวบ้าน
5. จับอสูร, จับ 5 ผีร้าย
บรรดาศักดิ์เจ้าแม่ทับทิม
ความศรัทธานับถือเจ้าแม่ทับทิมเริ่มจากสมัยกำเนิดของท่านคือ ต้นราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) จากเกาะบ้านเกิดคือหมีจิว แพร่ยังท้องถิ่นริมทะเลที่เมื่อเกิดการประสบภัยแล้ว สถานการณ์เกิดกลายเป็นดี เหมือนมีปาฏิหาริย์ ก็จะเชื่อกันว่า เป็นการมาช่วยของเจ้าแม่ทับทิม ก็อาจสร้างเป็นศาลเพียงตาเล็กๆ แล้วเปลี่ยนเป็นศาลเจ้าภายหลัง หรือสร้างเป็นศาลเจ้าแต่ต้นเลย
พ.ศ. 1665 ที่เชื่อกันว่าท่านได้ช่วยทูตที่ประสบภัยทางทะเล ทำให้ซ่งฮุยฮ่องเต้ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นท่านผู้หญิง
พ.ศ. 1735 ซ่งกวงจงฮ่องเต้ หรือกุลไล่ข่าน ยกบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นท่านผู้หญิง ให้สูงขึ้นเป็นท่านผู้หญิงพระเทวีแห่งสวรรค์
พ.ศ. 1952 จักรพรรดิหย่งเล่อ แห่งราชวงศ์เหม็ง พระราชทานตำแหน่งพระเทวีแห่งสวรรค์ผู้พิทักษ์แผ่นดินและประชา
พ.ศ. 2227 คับฮีฮ่องเต้ ราชวงศ์เซ็ง เชื่อว่าเจ้าแม่ทับทิมช่วยกู้เกาะไต้หวัน ให้กลับมาเป็นของราชวงศ์จีน จึงตั้งตำแหน่งให้เป็น เทียน โหว หรือ เจ้าแม่สวรรค์
พ.ศ. 2382 เช็งเซี้ยงจงฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์เช็ง เพิ่มตำแหน่งให้เป็นเทพเจ้าแม่แห่งสวรรค์ ซึ่งก็ยังสามารถเรียกง่ายๆ เป็น เทียน โหว หรือเจ้าแม่สวรรค์ได้
ศรัทธาในเจ้าแม่ทับทิมจึงเพิ่มพูนและยิ่งเป็นที่นับถือศรัทธาตามกาลเวลา เฉพาะที่มณฑลฮกเกี๋ยน ซึ่งบ้านเกิดของเจ้าแม่คือ เกาหมีจิว ตลอดจนทุกจังหวัดและแทบทุกอำเภอของฮกเกี๋ยน จะมีศาลเจ้าแม่ทับทิม และทั่วแผ่นดินจีนในท้องที่ติดทะเลหรือน้ำ จะมีศาลเจ้าแม่ทับทิมนับไม่ถ้วน นิยมตั้งชื่อตามท้องถิ่นเช่น
เพ้งไฮ้เทียนโหวเบี่ย แปลว่า ศาลบูชาเจ้าแม่สวรรค์ที่เพ้งไฮ้
กังเค่าหม่าโจ้วเบี่ย แปลว่า ศาลบูชาเจ้าแม่สวรรค์ที่ปากน้ำกังเค่า
ปุงเต๋งหม่าโจ้วเบี่ย แปลว่า ศาลบูชาเจ้าแม่สวรรค์ที่ปุงเต๋ง
จึงเปียงอึ้งเล้งหม่าโจว้เบี่ย แปลว่า ศาลบูชาเจ้าแม่สวรรค์มังกรเหลือง
เทียนสินเนี่ยเนี้ยเก็ง แปลว่า ศาลบูชาเจ้าแม่สวรรค์ที่เมืองเทียนสิน
โดยองค์รูปปั้นเจ้าแม่จะนิยมให้เป็นผู้หญิงสาว เพราะท่านเสียชีวิตอายุยังน้อยคือ บางตำราว่า 18, บางที่ว่า 28 และหากสร้างในยุคหลังๆ จะนิยมให้ทรงเครื่องอย่างนางกษัตริย์ หรือสตรีชั้นสูงในราชสำนักเสมอ ตามบรรดาศักดิ์ที่เจ้าแม่ได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้ ซึ่งบางที่จะมีการทำป้ายจารึกอักษรทองคำถึงบรรดาศักดิ์ที่เจ้าแม่ทรงได้รับพระราชทานด้วย
เนื่องจากเจ้าแม่ทับทิมเป็นที่เคารพมากของชาวจีนอย่างแท้จริง ไม่ว่าคนจีนโพ้นทะเลจะอพยบไปยังดินแดนใดของโลก ก็ยังคงนำศรัทธานี้ติดไปด้วย จึงเกิดสถิติน่าอัศจรรย์ถึงจำนวนศาลเจ้าแม่ทับทิมว่า ที่ไต้หวันมีศาลเจ้าแม่กว่า 800 แห่ง ในฮ่องกงมาเก๋ามีกว่า 100 แห่ง
ประเทศอื่นๆเช่นเกาหลี, ญี่ปุ่น, ทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ ฟิลิปปินส์, อินโนนีเซีย, ไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, กัมพูชา, เวียนนาม จะมีศาลเจ้าแม่ทับทิมอีกกว่า 100 แห่ง ซึ่งนอกทวีปเอเชียอย่างยุโรป คือ อังกฤษ ก็มี, ที่ออสเตรเลียและทวีปอเมริกาใต้ก็มีศาลเจ้าแม่ทับทิมในย่านไชน่าทาวน์ของคนจีน เป็นพลังศรัทธาที่ฝังลึกอย่างไม่เสื่อมคลายจนปัจจุบัน
เจ้าแม่ทับทิมเมืองไทย
เท่าที่เก็บข้อมูลเล็กน้อย พอจะสรุปได้ว่า เมืองไทยมีศาลเจ้าแม่ทับทิมหลายแห่ง เช่น ที่ใกล้ห้างเอทีเอ็มตรงพาหุรัด, ที่เชิงสะพานซังฮี้, และที่มีชื่อเสียงมากคือ ที่ปัตตานี โดยเจ้าแม่ทับทิมเมืองไทยมี 4 แบบ คือ
แบบที่เป็น เทียน โหว เซี้ยน บ้อ หรือนับถือเจ้าแม่ทับทิมลิ้มมิก ของจีนโบราณ
เจ้าแม่ที่แกะเป็นองค์จากขอนไม้ใหญ่ลอยน้ำมา เรียกว่า จุ้ย บ้วย เซี้ย เนี้ย หรือ จุ้ย บ่อ เซี้ย เนี้ย
เจี้ย สุน เซี้ย เนี้ย
เจ้าแม่ลิ้วโกวเนี้ยที่ปัตตานี
โดยเจ้าแม่ทับทิมลิ้มโกวเนี้ย หรือที่บางสำเนียงออกเสียงว่า ลิ้ม กอ เหนี่ยว ที่ปัตตานี จะเป็นคนละองค์กับเจ้าแม่ทับทิมลิ้มมิก ของเมืองจีน แต่แซ่เดียวกันและเป็นชาวฮกเกี๋ยนเหมือนกัน โดยเจ้าแม่ทิบทิมลิ้มโกวเนี้ยที่ปัตตานีมีประวัติว่า เจ้าแม่มีพี่ชายเป็นคนหนุ่มรักการผจญภัย ที่สำคัญคือ มีความเป็นผู้นำสูง และคุมคนเก่งมาก สามารถตั้งกองเรือของตน รวบรวมสมัครพรรคพวกได้มาก กองเรือนี้จะคอยคุ้มครองชาวเรือจากพวกโจรสลัดในทะเล
ประมาณปี พ.ศ. 2021 พี่ชายนำกองเรือเดินทางมาถึงปัตตานี แล้วเกิดติดใจผืนแผ่นดินถิ่นนี้ จึงลงหลักปักฐานตั้งรกรากพร้อมลูกเรื่อประมาณ 20,000 คน ขณะนั้นปัตตานียังเป็นรัฐอิสระ เจ้าเมืองปัตตานีในยุคสมัยนั้นเป็นผู้หญิง เมื่อเห็นหน่วยก้านของหนุ่มเจ้าของกองเรือแล้ว ถูกใจ จึงยกลูกสาวให้แต่งงานกัน
เมื่อได้เป็นลูกเขยเจ้าเมืองปัตตานี พี่ชายเจ้าแม่ก็ไม่ได้อยู่นิ่งดูดาย แต่เป็นเขยที่ดีเยี่ยม เป็นกำลังสำคัญในการดูแลป้องกันเมืองจากการรุกราน พร้อมช่วยพัฒนาท้องถิ่น ที่น่าสนใจคือ การนำความรู้จากถิ่นเดิมมาถ่ายทอดให้เช่น การทำปืนใหญ่ โดยว่ากันว่า ปืนใหญ่นางพญาตานี ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่หน้ากระทรวงกลาโหม สร้างโดยพี่ชายเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวนี่เอง
อยู่มาวันหนึ่ง เจ้าแม่ซึ่งอยู่ที่ฮกเกี๋ยน เห็นพี่ชายจากบ้านไปนาน ก็ใจกล้าสามารถไม่แพ้กัน ลงเรือมาตามพี่ชายถึงปัตตานี แล้วก็เกิดติดใจที่นี่เหมือนพี่ชาย จึงปลงใจอยู่เลยเช่นกัน
ตำนานเล่าว่า เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมีนิสัยไปทางผู้ชาย ชอบต่อสู้ผจญภัย เมื่อมาอยู่ปัตตานีก็ชอบไปร่วมออกรบกับพี่ชายเสมอ แต่น่าเสียดายที่เกิดรบพลาดในครั้งหนึ่ง เป็นพลาดใหญ่ที่พาให้ถึงแก่เสียชีวิต พี่ชายเสียดายและอาลัยรักในตัวน้องสาวมาก จึงได้สร้างศาลเพื่อเป็นที่ระลึก ชาวบ้านต่างพากันมากราบไหว้บูชา เกิดนับถือศรัทธามากขึ้นๆ จนถึงทุกวันนี้ เรียกศาลเจ้าแม่นี้ว่า ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือสำเนียงแต้จิ๋วว่า ลิ้มโกวเนี้ย
ต่อไปนี้คือรายชื่อศาลเจ้าแม่ทับทิมที่คนนิยมไปไหว้มาก
ศาลเจ้าแม่ทับทิม อ.บ้านนา จ.นครนายก ( เจ้า แม่ บ้าน นา )
ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตรงพาหุรัด (เทียน โหว เซี้ย บ้อ)
ศาลเจ้าแม่ทับทิม บางขุนเทียน (เทียน โหว เซี้ย บ้อ)
ศาลเจ้าแม่ทับทิม บางโพ (เทียน โหว เซี้ย บ้อ)
ศาลเจ้าแม่ทับทิม ซอยโกวบ้อ ตากสิน (เทียน โหว เซี้ย โกว)
ศาลเจ้าแม่ทับทิม บางซื่อ (เจี้ย สุน เซี้ย เนี้ย)
ศาลเจ้าแม่ทับทิม วัดเลียบ (จุ้ย บ้วย เซี้ย เนี้ย)
ศาลเจ้าแม่ทับทิม เชิงสะพานซังฮี้ (จุ้ย บ้วย เซี้ย เนี้ย) เป็นแบบไหหลำ
ศาลเจ้าแม่ทับทิม ดาวคะนอง (จุ้ย บ้วย เซี้ย เนี้ย)
จิตรา ก่อนันทเกรียรติ
(หนังสือทำเนียบเจ้าแม่และผู้วิเศษของจีน)
ทุกครั้งที่เห็นศาลเจ้าแม่ทับทิม หากว่าท่านผู้อ่านเป็นคนช่างสังเกตสักนิด ท่านคงจะตั้งคำถามภายในใจ เพราะเหตุใดศาลของเจ้าแม่ทับทิม ผู้สร้างจึงมักเลือกทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ (บางศาลก็ตั้งอยู่ริมทะเล) ผมมีคำตอบให้กับท่าน …
ตำนานเล่าขานนานมาแล้ว
หมุยฮวงเป็นนางฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ นิสัยของหมุยฮวงอาจจะเหมือนกับเด็ก คือชอบวิ่งเล่นกับพวกนางฟ้านางสวรรค์ มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่หมุยฮวงกำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน นางไม่ทันสังเกตเห็นหัวหน้านางฟ้า จึงวิ่งชนอย่างเต็มแรง ทำให้หัวหน้านางฟ้ามีความโกรธเป็นอันมาก หมุยฮวงรู้สึกผิดกับการกระทำ และนางได้พยายามขอร้องหัวหน้านางฟ้าไม่ให้เอาผิด แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์ หัวหน้านางฟ้าได้ประกาศิตออกมาว่า ขอลงโทษนางให้ลงไปเกิดในโลกมนุษย์
" เจ้าจะต้องทำงานหนัก เวลากินก็ต้องกินอย่างสัตว์สกปรก เวลานอนก็ต้องนอนกับสัตว์สกปรก หรือแม้แต่ยามที่จะต้องตาย ยังต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน"
นางฟ้าสาวสวยได้ลงมาเกิดในครอบครัวของชาวนายากจน ผู้เป็นแม่ของนางมีความรักและเอ็นดูเป็นอันมาก ยิ่งผู้เป็นพ่อด้วยแล้วคงจะต้องบอกว่าทั้งรักทั้งหลงหมุยฮวง เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะผลบุญ ซึ่งนางได้สร้างสมเอาไว้เมื่ออยู่เบื้องบนสวรรค์ จึงได้ดลบันดาลให้มีความสุข
หัวหน้านางฟ้าเมื่อทราบเรื่องก็ไม่พอใจ นางจึงแปลงร่างมาหญิงสาวหน้าตาสวย และได้ใช้เสน่ห์จนพ่อของหมุยฮวงหลงรัก ชุบเลี้ยงในฐานะภรรยาอีกคนหนึ่ง ซึ่งแม่ของหมุยฮวงมีความเสียใจเป็นอันมาก สุดท้ายก็ตรอมใจตายในที่สุด
การจากไปของผู้เป็นแม่ ทำให้หมุยฮวงมีความเศร้าโศกเสียใจเป็นอันมาก ส่วนผู้เป็นพ่อซึ่งตกอยู่ในมนต์สะกดของหัวหน้านางฟ้า ก็ไม่ได้เอาใจใส่หมุยฮวงเหมือนอย่างเคย แถมยังใช้ให้หมุยฮวงทำงานหนักสารพัด เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็ใช้กำลังทุบตีอย่างโหดร้าย และได้ไล่ให้หมุยฮวงไปนอนในเล้าหมู เวลากินก็กินรวมกับหมู
หมุยฮวงได้รับความกระเทือนใจเป็นอันมาก ( คงจะต้องเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า เมื่อหมุยฮวงเกิดเป็นมนุษย์ ความทรงจำเดิมๆ ได้หายไปจนหมดสิ้น หมุยฮวงจำไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่า นางนั้นเคยเป็นนางฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ แต่ได้ถูกลงโทษให้มาเกิดในโลกมนุษย์)
วันหนึ่ง แม่เลี้ยงได้ใช้ให้หมุยฮวงให้ไปตักน้ำในบ่อ ซึ่งมีระยะทางไกลหลายกิโล หมุยฮวงก็ปฏิบัติตาม ระหว่างทางนางได้พบกับงูเขียวตัวหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บ หมุยฮวงรู้สึกสงสารงูเขียวตัวนั้น จึงช่วยปฐมพยาบาลจนกระทั่งงูเขียวหายเป็นปกติ
งูเขียวตัวนั้น แท้จริงก็คือเทวดา ซึ่งรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ด้วยน้ำใจอันแสนประเสริฐของหญิงสาว ทำให้เทวดารู้สึกชื่นชมและศรัทธาเป็นอันมาก หมุยฮวงรู้สึกตกใจเมื่อเห็นงูเขียวตัวดังกล่าวแปลงร่างเป็นคน
" เธอเป็นคนมีจิตใจที่ดีงาม ฉันจะให้เชือกวิเศษเธอเส้นหนึ่ง เชือกเส้นนี้หากเธอนำไปแกว่งในตุ่มใส่น้ำ ถ้าแกว่งไปทางด้านขวา น้ำจะเพิ่มขึ้นจนเต็มตุ่ม แต่ถ้าจะให้น้ำหยุดก็จะต้องแกว่งไปทางซ้าย
หมุยฮวงได้เชือกวิเศษก็ดีใจเป็นอันมาก เพราะต่อไปนี้เธอจะไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว ทุกครั้งที่แม่เลี้ยงใช้ให้หมุยฮวงไปตักน้ำ หญิงสาวก็จะแอบไปคุยกับเทวดา ซึ่งได้มอบเชือกวิเศษให้กับเธอ แต่ความลับก็ไม่มีในโลก เรื่องทั้งหมดแม่เลี้ยงได้สืบจนรู้ความจริง
แม่เลี้ยงได้ลองนำเชือกในแกว่งในตุ่มใส่น้ำ ทันทีที่แกว่งไปทางด้านขวามือ น้ำในตุ่มได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว แม่เลี้ยงของหมุยฮวงตกใจ นางพยายามจะทำให้น้ำหยุดแต่ไม่เป็นผล ระดับยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งท่วมบ้านของนาง ด้วยความกลัวทำให้แม่เลี้ยงของหมุยฮวงหนีกลับขึ้นอยู่บนสวรรค์เหมือนดั่งเดิม
ฝ่ายหมุยฮวง เมื่อมาถึงบ้านก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าระดับกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ หมุยฮวงพยายามมองหาเชือกวิเศษแต่ไม่พบ นางรู้ดีว่าหากน้ำท่วมยังคงท่วมต่อไปเรื่อยๆ ชาวบ้านทั่วไปจะได้รับความเดือดร้อน นางจึงตัดสินใจใช้ร่างเป็นทำนบปิดน้ำที่กำลังท่วม น้ำจึงหยุดไหล แต่หมุยฮวงก็ได้เสียชีวิตเนื่องจากสำลักน้ำ
หมุยฮวงได้กลับขึ้นไปเกิดใหม่บนสวรรค์อีกครั้ง แต่จิตใจของนางยังคงมีความเป็นห่วงพวกมนุษย์ หมุยฮวงได้ตั้งจิตอธิฐานว่า หากเพลาใดที่มนุษย์เดือดร้อน ให้จุดธูปพร้อมทั้งร้องเรียกชื่อ นางก็จะลงมาช่วยพวกมนุษย์ทันที
ด้วยเหตุนี้เอง บริเวณริมแม่น้ำทั่วๆ ไป เราจึงมักพบศาลของหมุยฮวง แต่ทว่าเรียกในชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า "เจ้าแม่ทับทิม" ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วไป เพื่อให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา ด้วยความเชื่อที่ว่า หากโลกมนุษย์ถูกน้ำท่วมคราใดแล้วละก็ อิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่ทับทิม จะช่วยดลบันดาลให้ผู้คนรอดพ้นจากความหายนะ
อาจจะเป็นเพียงตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา หลายคนไม่เชื่อว่าเจ้าแม่ทับทิมจะมีความศักดิ์สิทธิ์จริง ดังนั้นจึงมีการ " ลองของ"เกิดขึ้น
ศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ถือว่าเป็นสถานที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่ชาวเรือจะออกทะเลเพื่อจับปลา เสียงประทัดจะต้องถูกจุดจนกระทั่งดังกึกก้องทั่วท้องน้ำ เมื่อกลับเข้าฝั่งท้องเรือจะเต็มไปด้วยปลาเป็นจำนวนมาก
จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้เกิดคำถามตามมาว่า เหตุใดเจ้าแม่ทับทิมจึงช่วยให้ชาวเรือจับปลาได้จนเต็มลำเรือ ทำเช่นนั้นมันเป็นบาปอย่างชัดเจน แบบนี้จะเป็นเจ้าแม่ผู้ทรงศีลได้อย่างไรกัน ?
เรื่องนี้มีท่านบอกมาว่า การที่ชาวเรือจะจับปลาได้หรือไม่ เจ้าแม่ทับทิมคงจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยไม่ได้ สิ่งที่เจ้าแม่ช่วยได้ก็คือ การคุ้มครองปกป้องให้ชาวเรือเดินทางออกทะเล และกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัยต่างหาก
ไต้ก๋งเรือคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ลูกเรือที่เป็นชาวพม่าไม่นับถือเจ้าแม่ทับทิม และได้ลองดีพูดจาท้าทายเจ้าแม่
" มันบอกว่าหากเจ้าแม่แน่จริง ก็บันดาลฝนตกลงมา หากฝนตกลงมาในเวลานี้จริงๆ มันจะนับถือเจ้าแม่ ขาดคำเท่านั้นเอง เสียงฟ้าคำรามกึกก้อง แล้วท้องฟ้าก็มีเมฆครึ้ม ไม่นานฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ผมกับลูกเรืออีก 6 คนต่างตกตะลึงตาค้างไปตามๆ กัน ทุกคนเห็นและได้ยินตรงกัน ผมรีบก้มลงกราบเจ้าแม่ด้วยความกลัว ลูกน้องผมตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ไม่มีใครคิดว่าฝนจะตกในเดือนมกราคม และทำไมจึงตกในเวลานั้นพอดี ผมไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดชาวเรือรุ่นก่อนๆ คนแก่ๆ จึงบอกว่า ก่อนจะออกเรือ ต้องบอกเจ้าแม่ทับทิมก่อน หากไม่อยากออกเรือแล้วไม่ได้กลับเข้าฝั่งอีกเลย"
การบูชาเจ้าแม่ทับทิม
การบูชาเจ้าแม่ทับทิมสามารถกระทำได้อย่างง่ายๆ บางคนจำบทสวดไม่ได้ก็ไม่ต้องท่อง เพราะท่องผิดๆ ถูกๆ ท่องไปก็เท่านั้น ประการแรกท่านจะต้องทำจิตใจให้สะอาด มีความเชื่อหรือความศรัทธาในเจ้าแม่ทับทิมจริงๆ จากนั้นก็ท่องนะโม 3 จบ แล้วเอ่ยพระนามของแม่เจ้าทับทิม หรือจะเรียกว่า " เจ้าแม่หมุยฮวง" ก็ได้เช่นกัน (เรียกเพียงครั้งเดียว) จากนั้นท่านมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไร ท่านก็เล่าให้เจ้าแม่ทับทิมฟัง แล้วจะให้ท่านช่วยเรื่องอะไรก็ขอท่านไป
ของแก้บน
ให้นำผลไม้สุก ( หากเป็นทับทิมได้ยิ่งดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร) จากนั้นนำไปล้างจนสะอาด ใส่ภาชนะยกเป็นเครื่องเซ่น งดเว้นพวกเนื้อสัตว์โดยเด็ดขาด
ผู้ที่บูชาเจ้าแม่ทับทิมเป็นประจำ จิตใจจะมีความสงบเยือกเย็น โรคภัยใดๆ ไม่มาเบียดเบียน การงานเจริญก้าวหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
มูลเดิมของการกำเนิดเจ้าแม่ทับทิม มีประวัติจากการบอกเล่าสืบต่อเนื่องกันมา ปรากกว่าเริ่มมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ในสมัยกษัตริย์ ฮั่นกวงบู๊ตี (ประมาณระหว่าง พ.ศ. 537 – 610) ซึ่งรัชสมัยนี้เองเจ้าแม่ทับทิมก็ได้รับการยกย่อง และแต่งตั้งให้เป็นเทพยุดาแห่งความเมตตาการุณย์ ช่วยคุ้มครองมวลมนุษย์ให้พ้นจากสรรพภัยและขจัดความทุกข์ยากทั้งมวล
กาลต่อมา จวบจนกระทั่งปลายราชวงศ์ เหม็ง ต่อต้นราชวงศ์เช็ง (ประมาณ พ.ศ. 2167 หรือ 367 ปีมาแล้ว) ที่เกาะไหหนำ (เกาะไหหลำ) เขต บ่นเซียว แขวงหน่ำให้ มีหมู่บ้านชื่อ ตุ๊ยบ้วย ณ ที่นี้เองมีชาวประมงที่ยากจนครอบครัวหนึ่ง หัวหน้าครอบครัว แซ่ พัว เป็นบุคคลที่ขยันขันแข็ง มัธยัสถ์ นิสัยซื่อสัตย์ สุจริต อาชีพหลักที่ยึดเป็นประจำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เลี้ยงครอบครัว ก็จะออกทะเลหาปลาในตอนกลางคืน
คืนวันหนึ่ง ทะเลเรียบ ท้องฟ้าโปร่ง ดวงดาวสุกสกาว เหมาะที่จะเป็นคืนแห่งการพักผ่อนและชื่นชม แต่เขาก็ยังคงต้องนำเรือคู่ชีวิตออกหาปลาเหมือนเช่นเคย โดยมีแหทำเป็นช้อนผูกติดไว้กับหัวเรือนานๆจึงจะยกดูสักครั้ง
ทว่าในคืนนี้ ไม่ว่าจะพายเรือทวนน้ำหรือพายเรือเข้าหาฝั่ง ทุกครั้งเมื่อยกช้อนขึ้นดู ไม่ปรากฏว่ามีปลาติดเลยแม้แต่ตัวเดียว ทำให้เขาเกิดความผิดหวัง ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่หมดความหวัง เขาพยายามอีกครั้ง ในคราวนี้เขาพายเรือออกไปนอกฝั่ง คะเนว่าอยู่ไกลที่สุดแล้ว เร่งฝีพายลากช้อนมุ่งหน้าเข้าหาชายหาด ซึ่งมั่นใจว่าครั้งนี้คงไม่ผิดหวังแน่ เพราะมีความรู้สึกว่ามีสิ่งของติดอยู่ในส่วนหัวเรือนั่นเอง เขาเริ่มยิ้มออก และเร่งเรือให้ถึงชายฝั่งโดยเร็วขึ้น
ต่อเมื่อยกช้อนขึ้นดู กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่อยู่ในก้นช้อนนั้น หาใช่ปลาไม่ เป็นเพียงท่อนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้นเอง ด้วยความโมโห และความผิดหวัง เขาเหวี่ยงท่อนไม้ท่อนนั้นทิ้งไป และรอจนกระทั่งท่อนไม้ทิ้งไปลอยน้ำไปไกลแล้ว เขาจึงหันหลังกลับมาตกแต่งช้อนเพื่อลองใหม่อีกครั้ง ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะสดชื่นนัก ครั้งนี้เขาเข็นช้อนแหทวนน้ำใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งนึกถึง ฟืน เกลือ และข้าวปลาอาหารของครอบครัวในวันรุ่งขึ้น และยังคิดไม่ออกตรองไม่ตกว่า ถ้าเขาไม่ได้ปลาในวันนี้และจะทำอย่างไรกับวันพรุ่งนี้
ในขณะที่เขาเข็นช้อนแหและคิดกังวลอยู่นั่นเอง ฉับพลันก็มีลมทะเลปะทะหน้าเขาวูบหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เขายกช้อนนั้นขึ้น สิ่งที่ประจักษ์กับสายตาและยังความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งก็ คือ ไม้ท่อนนั้นเข้ามาอยู่ในช้อนแหอีกเช่นครั้งที่แล้ว
ด้วยความโมโหสุดขีด เขาเหวี่ยงท่อนไม้และช้อนแหขึ้นไปบนชายหาดอย่างไม่ใยดี เพียงชั่วครู่เขาหวนคิดได้ว่า ไม้ท่อนนี้เขาเหวี่ยงทิ้งไปทางน้ำไหลลง แต่เหตุไฉนจึงทวนน้ำกลับเข้ามาอยู่ในช้อนแหเขาได้อีก เขารีบกระวีกระวาดขึ้นฝั่ง พร้อมกับพิจารณาไม้ท่อนนั้นด้วยความมหัศจรรย์ใจยิ่งนัก
แต่จะด้วยความประหลาดหรือมหัศจรรย์อย่างไรก็ตาม เขาได้แต่เพ่งพิจารณาไม้ท่อนนั้น พร้อมกับถอนใจนึกถึงความอาภัพกับวาสนาของตนเอง ส่วนภายในจิตใจเขาก็เฝ้าแต่ครุ่นคิดถึง เหตุใดท่อนไม้ท่อนเดียวกันนี้จึงไหลทวนน้ำ และก่อกวนให้เขาเกิดความผิดหวังเป็นเฉพาะเช่นนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจอะไร มากขึ้น
จากความงง และไม่เข้าใจในเหตุและผลนี้เอง ได้สร้างความท้อแท้และความหวังให้กับเขา คนเราเมื่อหมดความหวัง สิ่งหนึ่งที่จะปรากฏขึ้นในดวงจิตก็คือ นึกถึงสิ่งลี้ลับ สิ่งซึ่งยังไม่มีผู้ใดอธิบายได้ เขาค่อยๆสงบสติอารมณ์ดับความโมโหในจิตใจ ด้วยการพร่ำภาวนาบนบานศาลกล่าวต่อไม้ท่อนนั้น โดยเสมือนหนึ่งเป็นท่อนไม้ศักดิ์สิทธิ์
ตัวข้าฯ ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นท่อนไม้ใดจะมีอภินิหารจนถึงกับลอยทวนน้ำได้ฉะนั้น หากท่านศักดิ์สิทธิ์ และมีศักดานุภาพจริง ก็ควรจะให้ความสงสารและช่วยให้ตัวข้าฯผู้อยู่ในความระทม ให้พ้นทางห้วงทุกข์นี้ด้วยเถิด โดยข้าฯสัญญาว่า ก่อนรุ่งแจ้งของวันพรุ่งนี้ ถ้าข้าฯ สามารถหาปลาได้เต็มช้อน แห ข้าฯ จะระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงกรุณาแก่ข้าฯ ด้วยการนำท่านกลับไปแกะสลักเป็นเทวรูป “ เจ้าแม่ ” พร้อมกับจะได้ทำการกราบไหว้บูชา บวงสรวงทุกค่ำเช้า
หลังจากได้กล่าวบนบานแล้วเขาค่อยๆ ประคองอุ้มไม้ท่อนนั้นไปประดิษฐานไว้ ณ หัวเรืออย่างทนุถนอม พร้อมทั้งรีบนำเรือดันช้อนแหมุ่งหน้าทวนน้ำขึ้นไปอีกครั้งด้วยความมั่นใจ คล้ายกับปาฏิหาริย์ครั้งนี้ ในช้อนแหแน่นขนัดไปด้วยปลานานาชนิด ทั้งตัวใหญ่ตัวน้อย จากนั้นเขานำเรือดันช้อนอีกเพียง 2-3 ครั้ง ท้องเรือลำน้อยของเขาก็เต็มไปด้วยปลา
เขาปลาบปลื้มและปิติเป็นอย่างยิ่ง ประจวบกับได้ยินเสียงไก่ขันแว่ว มาจากฝั่ง แสงสีทองเรื่อรองอยู่ขอบฟ้า ได้เวลาอรุโณทัย เขารีบกระวีกระวาดเบนหัวเรือมุ่งหน้ากลับบ้านด้วยจิตใจแสนสุขและอิ่มเอิบในอภินิหารของท่อนไม้นั้น ทำให้คำอธิษฐานของเขาสัมฤทธิ์ผลตามคำที่วิงวอนไว้
เมื่อถึงย้อนหลังจากเก็บเครื่องมือเครื่องใช้ในการจับปลาเข้าที่เข้าทางแล้ว เขาไม่ลืมที่จะนำท่อนไม้นั้นไปวางในที่อันควร ต่อจากนั้นเขาได้นำปลาที่จับ ได้ลำเลียงเข้าสู่ตลาด และแล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้นอีก ราคาปลาในตลาดวันนั้นสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า เพราะวันนี้ปลาในตลาดมีน้อยมาก ทำให้เขายิ่งได้สำนึกว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะปาฏิหาริย์ของท่อนไม้ศักดิ์สิทธิ์อย่างมิต้องสงสัย
ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา บุคคลแซ่พัวผู้นี้ ก่อนจะนำเรือออกทะเลเพื่อจับปลาเขาจะต้องทำการเซ่นไหว้ขอพรจากท่อนไม้ก่อน และทุกครั้งเขาจะพบแต่ความสำเร็จสมหวัง เงินทองเริ่มมี การสะสมอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ก็ไม่เป็นปัญหาสร้างความหนักใจให้แก่เขาและครอบครัวอีกเลย
6 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว การทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการจับปลาได้สร้างความเจริญความสุขสบาย จนทำให้เขากลายเป็นผู้มีอันจะกินในถิ่นละแวกนั้นเพิ่มขึ้นมาอีกครอบครัวหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาลืมไม่ได้คือ หากทุกอย่างดำเนินไปอย่างเช่นทุกวันนี้ ขอเวลาอีกเพียงปีเดียวเท่านั้น เขาก็คงสามารถจะนำไม้ศักดิ์สิทธิ์ท่อนนั้นมาแกะสลักเป็นองค์เทวรูป “ เจ้าแม่ ” พร้อมทั้งสร้างศาลให้ดวงวิญญาณของเจ้าแม่สถิตอยู่ได้ สมกับทีเขาได้บนบานไว้
ในค่ำคืนวันนั้น ถึงแม้เขาจะได้ตั้งปณิธานไว้เช่นนั้น แต่การจับปลาอย่างได้ผล เงินทองที่ไหลมาเทมาทำให้เขาหลงลืมไป จนแล้วจนรอดการแกะสลักองค์เทวรูป “ เจ้าแม่ ” และการสร้างศาลก็ยังมิได้เริ่มดำเนินการแต่ประการใด
บุคคลแซ่พัวผู้นี้ ออกจับปลาเพลิดเพลินจนลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับท่อนไม้ที่เก็บไว้ จนเวลาผ่านไปนานจนลืมท่อนไม้ที่ได้ให้สัญญาว่าจะเอาไปแกะสลักเป็นองค์เจ้าแม่เพื่อบูชาเสียสิ้น ต่อมาการจับปลาเริ่มฝืดเคืองจับปลาไม่ค่อยได้ เลี้ยงหมูไว้หมูก็ป่วยตาย เลี้ยงเป็ดไก่ไว้เป็ดไก่ก็ป่วยตาย ทำให้ฐานะความเป็นอยู่เริ่มอัตคัดขัดสน เงินทองไม่พอจับจ่ายใช้สอย เริ่มยากจนลง
จวบจนกระทั่งค่ำวันหนึ่ง เขารู้สึกอ่อนเพลีย ความง่วงเข้าครอบงำจนอยากจะพักผ่อนหลับนอนเหลือกำลัง ในขณะที่ใกล้จะหลับนั้นเองเขาเคลิ้มฝันไปว่าเขาได้ล่องลอยไป ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ธรรมชาติสวยงามยิ่งนัก บนท้องฟ้าดารดาษไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ สายธารที่ไหลเอื่อยๆอยู่เบื้องหน้า น้ำใสสะอาดพลิ้วไปตามสายลม สร้างความประทับใจและความเพลิดเพลินให้เขา จนสุดที่จะบรรยายได้
ทันใดนั้นเอง ก็มีสายฟ้าแลบสว่างขึ้นเหนือสายน้ำนั้น พร้อมกับปรากฏร่างของหญิงสาวรูปงามสวมเสื้อเกราะหลากสีที่เอวคาดกระบี่ ท่าทางทะมัดทะแมงสง่างามเดินตรงมาหาเขา นางยกมือทั้งสองเกาะกุมอยู่เหนืออกเป็นเชิงคารวะ
“ ท่านผู้เฒ่าแซ่พัว เจ้าแม่ให้มาเชิญท่านไปยังวังที่ประทับ มีเรื่องที่จะปรึกษาด้วย ”
คำเชิญที่มิได้คาดคิดมาก่อน ทำเอาผู้เฒ่าแซ่พัวตกตะลึง ยืนอยู่กับที่ด้วยความงงงัน ยังมิทันจะตอบรับหรือปฏิเสธคำเชิญนั้น ดวงตาเขาก็พร่าขึ้นอีกครั้งด้วยสายฟ้าที่ดูเหมือนจะแรงกว่าครั้งแรกสว่างวาบขึ้นเป็นคำรบที่สอง ครั้นแล้วร่างของเขาก็ไร้น้ำหนักล่องลอยตามนางผู้นั้นไป กว่าจะได้สติก็ปรากฏว่าเขาได้มายืนอยู่หน้าแท่นบัลลังก์อาสน์ ที่ประดับด้วยทองคำฝังเพชรและอัญมณีสวยงามตระการตา
ณ บนแท่นนั้นเอง มีเจ้าแม่ทรงเสื้อคลุมลายมังกร ประดับด้วยมงกุฎเพชรเป็นรูปนางหงส์ และมีฉลองพระบาทสีแดง ปักลวดลายด้วยดิ้นทองและเงินเป็นรูปดอกไม้ ประทับอยู่บนแท่นบัลลังก์อาสน์ ด้วยพระพักตร์ที่อ่อนละมุนนุ่มนวล เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่อิ่มเอิบ แสดงถึงความเมตตาปราณี
“ ผู้เฒ่าพัว ยังจำถึงคำบนบานที่เคยอธิษฐานได้หรือไม่ ส่วนการตอบสนองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามคำขอก็ให้อยู่แล้วอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทว่าสิ่งที่เจ้าจะต้องทำการแก้บนเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา โดยจะแกะสลักไม้ท่อนนั้นให้เป็นรูปเจ้าแม่ พร้อมทั้งศาลที่ประทับเพื่อกราบไหว้บูชา ยังมิได้เริ่มเลย ฉะนั้นเมื่อเจ้ากลับไปแล้ว ให้เริ่มได้ ศาลถึงจะเล็กและคับแคบก็สามารถใหญ่ได้ในอนาคต ศาลไม่สวยไม่งามเป็นที่ประทับใจ ก็จะสวยงามได้ในอีกไม่นาน ทั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นเครื่องแสดงถึงเดชะบารมีของเจ้าแม่ และเป็นที่พึ่งพิงแก่ปวงชนที่ตกทุกข์ได้ยาก อันนับเนื่องต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ”
ชาวประมง “ แซ่พัว ” ผู้นี้หลังจากได้ฟังอรรถาธิบายของเจ้าแม่จนสิ้นถ้อยกระทงความแล้ว รู้สึกว่าตัวเองยังเป็นหนี้พระการุณย์ของเจ้าแม่ดุจดังขุนเขา จึงรีบคุกเข่าโขกศีรษะลงกับพื้น พลางเอ่ยว่า
“ ขอบพระคุณในความการุณย์ของเจ้าแม่ ข้าฯจะรีบกลับไปปฏิบัติกิจที่คั่งค้างนี้ทันที ” ปรากฏว่าพอเขากล่าวจบลง พลันสายฟ้าสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างสลายหายวับไปหมดสิ้น
เขาตกใจตื่นจากภวังค์คืนสู่สภาพปกติ ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในความฝันเมื่อครู่นี้ เขารีบไปค้นหาท่อนไม้ที่เก็บไว้เมื่อครั้งก่อนที่รับสัญญามา แต่หาเท่าไรก็ไม่พบ ถามภรรยาว่าเก็บไม้ไว้ที่ไหน ภรรยาตอบว่า เขาได้นำไม้ท่อนนั้นไปกั้นทำคอกที่เล้าหมู เขาจึงรีบไปนำมาทำความสะอาดและจุดธูปขอขมาต่อเจ้าแม่ที่ผิดสัญญา เขาตัดสินใจนำเงินทองที่เก็บหอมรอมริบไว้ออกมาดำเนินการตามที่ได้บนบานไว้ และเพื่อเป็นการเซ่นสรวงแด่ “ เจ้าแม่ ” ผู้โอบอุ้มและเมตตาเขาตลอดมา
และแล้ว วันนั้นตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 (จันทรคติจีน) ณ ทุ่งกว้างของหมู่บ้าน “ ตุ๊ยบ้วย ” ก็มีศาลของ “ เจ้าแม่ตุ๊ยบ้วย ” บังเกิดขึ้น มีการประกอบพิธีเบิกพระเนตร อัญเชิญดวงวิญญาณของเจ้าแม่มาประทับเพื่อคุ้มครองและประสิทธิ์ประสาทแก่ปวงชน พร้อมทั้งสรรพสัตว์ที่ทุกข์ยากและอำนวยความสำเร็จให้บังเกิดแก่ผู้ที่วิงวอนขอร้องให้ รอดพ้นจากภัยพิบัติ และในวันพิธีนั้นเอง เขาได้จัดสุรา อาหาร และเชิญแขกเหรื่อญาติมิตรมาร่วมรับประทานอาหาร โดยถือว่า สุราคือน้ำอมฤตและอาหารคือเครื่องทิพย์ ที่จะยังความสุขความเจริญความสำเร็จให้บังเกิดแก่ผู้มาร่วมงาน
เขาถือโอกาสเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ทุกคนทราบ และกำหนดเอาวันประกอบพิธีวันนี้เป็นวันกำเนิดของ ” เจ้าแม่ตุ๊ยบ้วย ” ซึ่งสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากข่าวนี้ได้แพร่สะพัด พร้อมความศักดิ์สิทธิ์ของ “ เจ้าแม่ตุ๊ยบ้วย ” ได้ขจรขจายต่อๆกันไป มีประชาชนทั้งใกล้และไกลเดินทางมากราบไหว้ขอบารมี ขออิทธิฤทธิ์ ขอความสำเร็จถ้วนทั่วทุกตัวคน โดยเฉพาะถ้าเป็นวันคล้ายวันกำเนิดที่กำหนดไว้ ก็จะมีประชาชนมาชุมนุมกราบไหว้กันมากมาย จนทำให้ศาลเจ้าและบริเวณสถานที่คับแคบลงไปถนัดใจ
และยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจจะงดเว้นการกล่าวได้คือ งานมหกรรมใดๆ ก็ตาม ถ้ามีคนมากหน้าหลายตามารวมกันมากๆ พวกผู้ร้ายตีชิงวิ่งราวก็จะเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และเดชะบารมีของ “ เจ้าแม่ตุ๊ยบ้วย ” ยังไม่เคยปรากฏว่ามีเหตุการณ์ร้ายๆเหล่านี้เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ประเพณีมีมาหลายร้อยปีแล้ว และหากเกิดมีกลุ่มคนร้ายรายใดคิดจะลองดี ลงมือประกอบกรรมชั่วจะต้องชะงักและถูกจับได้ เหมือนต้องไฟฟ้าสถิตให้นิ่งเฉยอยู่กับที่ คอยเจ้าหน้าที่มาจับกุมไปลงโทษ
จากเสียงลือเสียงเล่าอ้างเหล่านี้ อีกประมาณร่วมมือ 100 ปี ก็แพร่ไปถึงพระกรรณของกษัตริย์ “ เด๊ากวง ” ( ระหว่าง พ.ศ. 2364 – 2393) ในราชวงศ์ “ เช็ง ” ( แมนจู) รวมทั้งอภินิหารขององค์เจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่มวลชนทุกคนทุกชั้น ทุกวรรณะ ไม่ว่าหญิงหรือชาย ฉะนั้น กษัตริย์เด๊ากวง จึงได้ประทานตราตั้งและพระราชทานนามว่า “ หน่ำ เทียน เตี๊ยม เดี๊ยน ก๊ำ เอ๋ง ห้วย ตุ๊ย บ้วย เต๋ง เหนี่ยง ”
ตามพระนามนี้มีความหมายคือ “ สายฟ้า สนองตอบเสียงฟ้าฝ่ายใต้ เจ้ามาตุ๊ยบ้วย ” สรุปความหมายของเจ้าแม่ที่ได้รับพระราชทานนามนี้ก็คือ เจ้าแม่สามารถให้การตอบสนอง ช่วยเหลือ พิทักษ์เกื้อกูลแก่ผู้ทุกข์ยากได้ทันท่วงที
จากประวัติที่ค้นคว้า ปรากฏว่าคนจีนไหหนำ (ไหหลำ) ได้เริ่มเดินทางมาประเทศไทย พึ่งพระบรมโพธิสมภารในราวพุทธศักราช 2385 โดยเฉพาะคนจีนไหหนำ ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะตอนใต้สุดของประเทศจีน ก่อนจะเดินทางสู่ประเทศไทยก็ต้องอาศัยเรือสำเภาเป็นพาหนะ ผ่านแหลมอินโดจีนเข้าสู่อ่าวไทย ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเรือซึ่งเห็นแต่น้ำกับฟ้า ชาวจีนไหหนำทุกคนอาศัยการบนบานเจ้าแม่ตุ๊ยบ้วยให้คุ้มครองรักษาให้การเดินทางเป็นไปโดยสวัสดิภาพ
ฉะนั้น จึงไม่เป็นการประหลาดใจแต่อย่างใดที่ทราบข่าวว่า ขณะนี้ ศาลเจ้าแม่ตุ๊ยบ้วย มีอยู่ในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทยจนถึงปัจจุบันเกือบทุกจังหวัด ส่วนศาลเจ้าแม่ที่อยู่เชิงสะพานซังฮี้สามเสน ชาวจีนไหหนำได้เริ่มสร้างตั้งแต่ปีแรกที่เดินทางมาถึงประเทศไทย
我写了和告诉隆科KHOT前一些。但我发现大多数人。我仍然困惑的历史KHOT。特别是,在泰国法院已采取多项KHOT作者花店。传统的方式去 - 锡克教徒始终。这仅仅是的第二法庭KHOT法院。
法庭空心蜡烛时尚的池塘。
另一个法院拐调查虽然时尚。
是不一样的。北大采样在靖国神社感应。泰国的俗称。红宝石美。你了解一些有相同的中国女神。出的不同的成分。
,因为生日红宝石美为6个月,在中国的主要节日之一。香港和台湾。我也有其他的为好。它是为了清除它的历史和起源的神话。
之前的女神书面。明确无误的,伟大的。
圣灵。泰国约会中国人的后裔。
我选择尊重教师。红宝石女神崇拜厚
恭敬地thepthai德瓦哦澄清。
开明的意识。知识产权推力漂亮。
冰碛的来信。清除历史清晰的认识。
请以前的历史,讲述的女神。其中发生在1503中国年首六个月不能忘记这一点。以前一直听说你已经长大。许多方面它是中国人。
恒河(教父)。
女神。
水神。 (自流井)。
神浪。
商人(龙)。
所以很明显,中国人尊重的古神分辨细节。不一样的刻板印象。隆科人实际上在历史上存在的情况下。可以以下列方式会导致分支KHOT中3-4。
隆科,他有一个真实的历史一个小小奇迹。
KHOT丰富的历史。说,教科书的作者之一。奇迹,有大约35至48人的情况下,这将帮助人们节约用水。
这是一个伟大的1-2标题尊敬你,作为一个空心的蜡烛时尚池塘或慈禧天堂天堂女神泰国是简单。
的情况下,人们发现一个日志翻滚的水。再刻女神红宝石。如果这些人俗称“调查夏风水。
谁拥有历史上任何地方的善良的妇女。去世的时候,房子是建祠堂。它可能被认为作为女神崇拜红宝石现有流动。戈尔担任作为靖国神社粘北大
红宝石美出生在中国。
KHOT塞米亚克中国是一个节日。熊岛出生的犹太人。县鹤塞米亚克。氏族楔文华的名字发音林林恒。享受母亲的名字夸张。出生于首六个月,中国北宋(公元1503),故事需要一段时间,并得到了奇迹新生儿一般。观音看见证。
我叫她的女儿出生了米克的味道。
米克这个词意味着拥有安静岁出生一个月的普通话发音。小米克味道很安静。然而,当我不喜欢米克长大。至少一个很聪明的问题。甚至一个女儿。我被允许享有良好的米克。从他的学习和文化是完全不同的。味道是耸人听闻的吞噬淘气米克总是与他的父亲和哥哥在海上。
长大。米克尝到这么好,带游泳池的努力。波可大了。任何时候,一个船灾难风暴。无论是渔船或船舶林米克游去营救遇难者,在他们身后很勇敢。
传说米克喜欢第二个故事的人才明显。
她本能地在天​​气方面是很大的。可以相当准确地预测天气变化。我已经使用了以下警告水手如初。
她的知识的医疗奇迹般地可以帮助始终保持家庭疾病。
此外,她也是一个亲神学。严格艺术节举行她很亲热的人。新味道比女人打电话给我的女儿龙法师。而一些若虫。不幸的是,林米克。死在一个年轻的年龄。一些文本,不好的时候我才18岁28。
死亡的原因告诉了三分之一。
一说。她吃的太少。一个素食主义者。营养物质,体内可能已不敷使用,在这种情况下,大多数人宁愿不承认。第二种形式的民间信仰的死亡女神
她自己的死亡和睡觉去了。她离开的日期。这是一个奇迹,人们有自己的生日,辟谣。七彩云。中国人叫香红出演云漂流附近的山丘。我听到了音乐和圣歌长。
有些文本说。之前死亡。梦见她的父亲和哥哥出海捕鱼。谢谢风暴。她想帮忙。虽然它是成功的。前2天后再次出现在梦中的事件,它真的发生了他的父亲和哥哥,母亲被惊醒。风暴和海浪,船下沉享受米克很遗憾可能没有帮助的亲人,摧毁了她的死亡。
居民谁是爱的帮助下,她总是。公认为“狗周”只是一个圣洁的女神。神社祭奠。后来与其他地方的人。神社女神。传说,喜欢帮助人的女神的圣洁和怜悯。辅以相信。村民聚集越来越多的尊重的女神。
有传闻称,神话。在宋代(公元1803至22年),该国的海上与中国的贸易。县鹤雷根荒野船大难。水手流行的祷告马周。我倾向于在灾难中幸存下来。通过口耳相传告诉。
在同一时间,大约1665年显灵宋高宗。遣使发展同韩国的关系。在护卫舰的任务。风暴隔海相望。所有八艘舰队,,下沉七艘生存一个中继。这亦是在外交的轨道飞机客舱大使含蕴灌输许多幸存者。即使说出声来。任何分支的神灵来帮助他们。
一名船员响应福突然发现,犹豫。马周来到女神是不同的。当使者回到陆云中国汉族的冒险故事告诉生存。听皇帝。皇帝印象深刻。一定要隶不久姬房屋援助,以给他们在靖国神社熊岛的犹太人标签转换。并赋予不久,姬女士的称号。
我真诚地相信在KHOT。法院随后。
48奇迹KHOT。
KHOT的华丽想象古人是一个很好的例子。讲述群众成为一个超自然的奇迹。人们认为,信任是真正令人印象深刻。在每一个时间和地点,我会去。后来有收集所有的传奇故事女神红宝石。
48有趣的是,作者的结论,48奇迹KHOT反映古代逻辑是这样的奇迹。
那些谁一直被誉为一个女神的诞生。比一个正常的人会比较特殊。传说,它是。你的父母被夸大了林恒,林源曾发誓给你我的女儿。然后妊娠约会。和她的节日,生日或夸大。小米克分娩经验。或女神红宝石。观音保护在任何时候。我看世界宝宝安全地。
再有就是一个年轻女孩的成长与童话军队将保护的覆盖面,直到8岁的年龄,我开始玩的男生。因为自己的兄弟。
有人说,作为一个13岁的苦行来的房子,并预测未来,我觉得米克将你的大贵族。旧的宗教经文教导现代学科及林氏告诉米克时,他16岁那年成为为整个村子。她是一个奇妙的洞察力。
两个奇迹在帮助人们KHOT。将完成整个,是帮助人们接近她的父亲和哥哥,以及在时间和地点的距离。在不同的情况。海,在其他水域奇迹故事的问题,如气候的品种。干旱会有所帮助。大的雨,它可以帮助。
•女神甚至治疗疾病。
•协助等工作。眼睛挖水,在该地区永久。
•帮助捕获劫匪,树林。
三,奇迹奇迹般的尺寸是打败鬼怪举办著名的千里眼。远远超出了无处不在的音乐和李也有18名警卫队的主神。即使在龙来奉献自己的女神。 48奇迹KHOT,因此它是一个很好的分类。
- 为了帮助水的受害者。
首先帮助父母和弟弟。
二。允许贸易商遭受船用多次。
(三)救助艇丢失,多次遇船难者。
四,用身体的重量作为主播女神。
五,有高产轨道红色武官市1665人口普查。
第6位。帮助带领舰队于1948年剥离太监雷克瑟姆远游。
七。帮助日本漂流。
第8位。群龙无首,在夜间的受害者。
第9位。拖累船到河弯。
- 为了帮助人们在他们的生活和生计。
首先,帮助熊岛珠宝销售。
两个允许雨干旱。要跌倒了好几次。
三,帮助停雨落下过很多次。
四,协助春天干旱,多次在土地。
五堰向导。
第6位。帮助挖井。
七。会谈天空清除。
第8位。告诉村民知道提前大潮。
- 为了帮助人们在疾病。成为大若干倍。
- 为了帮助救灾,到劫匪居民的2-3倍。
- 有很多在神秘的奇迹。
1。即将到来的龙年。
两个有两颗卫星千里眼远。无处不在的听音距离。
3卫队队长天使18。
四,帮助驱除村民。
五,捕捉怪物,五俘虏。
“红宝石美。
信仰方面KHOT从起源的人。宋代(公元1503至1822年),岛上是家熊犹太人。本地扩频海海啸已经。现在的形势越来越好。就像一个奇迹。据认为,帮助女神红宝石。它可能会创建一个小神社。后来改变参拜。或建立一个神社的开始。
1665年被认为是帮助受害者的海上外交。宋真宗惠。赋予一个贵妇的标题。
1735宋高宗狂冲。古尔汗或者解聘。一个贵妇的标题。女士,夫人较高的天堂。
1952年明成祖朱棣。孟王朝。位置皇室公主的天地,民间后卫。
2227王朝皇帝生熙我相信保存台湾KHOT。要返回中国王朝。该位置是一个空心蜡烛或女神的天堂。
公元前2,382年英皇诚翔创。郑王朝。添加一个位置的神天上的母亲。它也可以是一个简单的空心蜡烛或女神天堂。
KHOT,从而在一个虔诚的时间内获得更多的信心。只有县鹤塞米亚克。女神的发源地是九熊犹太人和每一个省,每一个区的水明漾福。红宝石协会将告上法庭。纵观中国大陆和当地捕获的海鲜或水。该法院KHOT无数当地受欢迎的命名实例。
海田鹏彰化携带护照是指天上的女神神社海鹏。
我随身携带护照康落马洲指天上的女神圣地镜南结构。
彭周马丁随身携带护照是指天上的女神神社彭鼎。
所以都皮昂岭马吴周随身携带护照意味着黄龙天堂女神神殿。
天津友联商贸意味着种族主义天上的女神神殿城市天津。
通过女神的雕像将是一个女人。他死在18岁,也就是说,有些书,有些在28,如果在后面那栋楼。豆腐是非常受欢迎的女王。或妇女高法院始终将会收到从皇帝的女神称号。有些标注金铭文已女神赐予的标题。
KHOT是因为很多中国人的真正尊重。无论是海外的中国人会跳的世界任何地区。我仍然相信这是用。因此,统计的法院KHOT的惊人的数量。靖国神社台湾有超过800家在香港,澳门有100多个社区。
其他国家,如韩国,日本,东南亚国家中,菲律宾,,在波利尼西亚,泰国,新加坡,马来西亚,柬埔寨,圆形代表法院KHOT超过100个,其中以外的亚洲和欧洲。英语是在澳大利亚和北美有地方法院KHOT的唐人街的中国人。信仰是一个强大的,不断深。
泰国KHOT。
存储轻微。足以得出这样的结论泰国有许多在商场现场的靖国神社红宝石手镯,Sanghi的桥脚下,在泰国北大年KHOT的非常有名,有四种类型。
蜡烛是一种中空的时尚,在池塘或中国古代尊敬的的米克KHOT味道。
羊肉是浮动的木材称为风水调查流行的时尚博水种族主义或种族歧视的女神。
苏建区的手中。
链接女神在北大年的“京都议定书”单位。
由红宝石湄芳林公园的单位。发音口音或一些粘北大省长林将是一个不同的红宝石美廉的米克·中国城市之一,但同样的氏族和相同的度假塞米亚克。由蒂姆·林女神提贝兹公园单位北大的历史。女神与一个弟弟,一个年轻的冒险重要的是领导。并花了很不错的人。可以设置自己的车队。收集尽可能多的追随者。舰队是专为保护船只在海上的海盗。
2021年带来了他哥哥的船队抵达北大我被吸引来此栖息的土地。因此,沉淀下来的船舶约20000人定居,北大是一个自由的国家。北大年府的统治者是一个女人在那个时代。年轻船主的风范,我带着我的女儿要结婚了。
法律,北大年府巡抚。兄弟不会袖手旁观的女神。但是,法律是优良的。一个街区入侵的一个主要力量的方向。并帮助当地发展。很有趣。原来的广播知识这样一门大炮由大炮女王塔尼亚说。目前设在国防部。超湄林KOR引起的一个弟弟,也。
有一天。娘娘假日塞米亚克。哥哥的房子长。它可以是同样勇敢。该艇由他的兄弟北大年府。吸引我的是它像一个哥哥。这是不是自愿的。
相传有女神林|销售人的性格。喜欢战斗冒险。一旦北大总是想加入战斗与他的兄弟。不幸的是,在一次战斗中的错误。一个很大的错误,导致了死亡威胁。我想念我的哥哥和姐姐,在很创造了一个纪念圣地。村民前来朝拜。越来越多的灵修。为了这一天。的法院叫这个女神。林神社|销售。潮州口音,味道很大或单位。
以下是一个受欢迎的神社来祭奠女神红宝石的列表。
班纳区,那空那育:笏KHOT(父母家)。
红宝石的锡克教圣地(中空的蜡烛时尚池塘)。
靖国神社红宝石路(中空的蜡烛时尚池塘)。
红宝石湄蒲苑(中空的蜡烛时尚池塘)。
红宝石美SOI牌九里斯本法院塔克辛(中空蜡烛风尚潘科)。
靖国神社,红宝石苏(苏建种族主义纽约区)。
测量沿KHOT(瑞安调查风潮再次)。
靖国神社红宝石。 Sanghi的桥(水调查时尚种族主义)是海南。
靖国神社:红宝石Daokanong(瑞安调查风潮再次)。
奇特拉阿难,你荣幸。
(书女神和中国神奇的宫殿)。
每当我看到女神红宝石。如果你是细心的读者一点点。你会不会介意提问。为什么法院KHOT。建筑商往往坐落在河边。 (有些法院位于海边),我有你的答案...
传说很久以前。
黄梅是一个在天上的天使。梅窝黄某的习惯可能是一样的儿童。她就像是天使在天上运行。有一天,当黄梅欢快地打。我注意到她的头童话。它跑了充分的力量。天使长激怒许多。梅窝晃为自己的行为感到内疚。她没有尝试纵容神仙首席问。但它是无济于事。天使的领导者,已经颁布了这一点。我把她放下来的人类世界。
“你必须努力工作。一次吃动物委曲求全。我不得不睡一个肮脏的动物。否则,即使死了。要痛苦地死去。“
来到了美丽的天使,出生在一个贫苦农民家庭。她的大爱和怜悯的母亲。即使是父亲会告诉我,他们双双坠入黄梅。所有的事件发生,因为优点。这是她为他们建在天上。他们渴望得到幸福。
天使的头时,我很不高兴。她转化成一个年轻漂亮的女人。黄梅的魅力足够的爱。维持作为一个妻子。母亲梅黄有许多遗憾。终于打破了心脏死亡。
出发的母亲。让梅晃就多有愁烦。父亲,谁落在在童话酋长的咒语。我不在乎黄梅像往常一样。我也用工作梅黄好东西。不是在我的脑海。被毒打。被驳回在梅窝黄法罗去睡觉。吃的时候吃猪肉。
黄梅,感动了许多(读者想知道。当梅黄,生而为人。他原是。已经完全消失。黄梅,甚至没有。她是一个天使在天上。但被判处出生在人类世界)。
有一天,母亲不得不去梅黄水的池塘。几公里的距离。黄梅也随之而来。在路上,她遇到了一条绿蛇。受伤。梅黄可惜的是绿色的蛇。蛇,从而有助于直至痊愈。
蛇。这是一个真正的天使。所有发生的故事。迷人的年轻女子的崇高精神。天使极大尊重,敬佩。黄梅震惊地看到这样一条绿蛇人转化。
“她是一个善良的灵魂。我给她的绳子魔术。如果她用一根绳子摆成水疱。摇摆到右侧。水将增加,直到旋钮。但是,如果水被停止,它必须摆动到左侧。
黄梅有很多快乐的魔绳。跟随她了,我不会有麻烦。每次继母用黄梅打水。什么样的女孩会说话的天使。这给了她的魔法套索。但是,它在世界上已经不是什么秘密。继母追溯到所有的真理。
继母试图在罐子里的绳子在水中摆动。一旦右边的摆动。迅速增加水水疱。继母梅黄恐慌。她试图阻止水,但没有效果。拍摄增长。直到她淹没。恐惧继母使梅窝晃逃回在天上,就像当初。
梅黄感到非常震惊,当他回家。当水平要高得多。黄梅试图寻找,但找不到魔绳。她知道,如果洪水继续保持淹没。居民将受到影响。她决定关掉水大坝被水淹没。水停止流动。但黄梅因呛水而死亡。
黄梅回到再次重生在天上。但她的头脑来说,他们仍然是人类。黄梅有精神典故如果任何人遭受的轴。香,所谓的名字。她将帮助该男子立即。
出于这个原因。沿河,我们总是喜欢,黄梅告诉法庭。但是在标题中提到的另一个名字。 “红宝石美”一字排开。因此,人们可以崇拜。相信随着如果地球被洪水淹没时,那么。魔法红宝石湄。将有助于激发人们逃离大屠杀。
可能是一样好,他们的传奇。很多人不相信红宝石美是一个神圣的真理。因此,它有“试一试”发生。
靖国神社红宝石。哪些劳动者。被认为是一个神圣的地方。在船舶出海捕鱼。直到鞭炮声将红红火火过水。一旦上了船,装载了很多鱼。
这样的事件。是否有一个问题。为什么红宝石协会已帮助渔船的船体。明确地这样做,这是一种罪过。这将是受洗的女神是谁,怎么样?
这告诉你。水手们会逮鱼。红宝石美不会干涉。什么帮助的是一个女神。保护以保护乘船出海。回到岸上安全和独立。
一位队长告诉记者。船员是不尊重缅甸红宝石湄。挑战并试图非常谄媚的女神
“据说,女神的雷区。它会谈雨。如果雨落在这个时候真的。将致力于女神。短期。雷霆咆哮的声音。天空是阴天。不久,雨倾泻下来,重重地。我与其他六个机组人员感到震惊和惊讶地看到和听到的所有比赛。我很快就倒了下去之前,女神与敬畏。我不寒而栗,以他的贵族身份。谁都没有想到雨会落在1月。为什么我在这段时间下跌。我不知道为什么船民离船前被告知那一代。说到前KHOT。如果你不希望离开船,并没有再返回岸上。“
崇拜女神红宝石。
红宝石女神崇拜可以轻松完成。有些人不记得不背诵祈祷。因为冲浪是唯一的导航错误。首先,你需要做一个干净的心灵。 :信仰或信仰在隆科真的。然后上网模块3我已经提到名字的女神红宝石。也被称为“全军覆没梅黄”(只有一个),那么你担心的东西。他告诉听众KHOT。我想让你知道它是什么,你走。
鳃。
成熟的果实(石榴是更好的。但如果没有,它并不重要),再用水洗,直到清洁。对于一个容器产品。省略的肉被严格禁止。
KHOT,谁拜定期。宁静的态度不侵犯任何疾病。职业发展。这是一个了不起的经验。
基石起源KHOT。口头传统的历史记录。布拉格开始,但于汉代。在汉光军事打击王(估计是在537到610之间),这个王朝被视为KHOT。和任命慈悲慈悲Etpiuda。保护人类免受灾难中心,并消除所有的痛苦。
一个月后,郑孟早期王朝时期(公元前2167年左右,或367年前)本岛(海南岛),投诉萧的才华水的一个村庄被称为“小丑调查结束为止。这是一个贫穷的渔民家庭。宗族集群作为一个有良心的诚实节俭的生活习惯,固定为生活的主要职业。家庭。晚上是海底捞。
一个晴朗的夜晚,星星,海顺利英镑。适合一个晚上的放松和赞赏。但他仍然不得不采取的妻子像往常一样外出钓鱼。篮网取得了勺子绑弓,只要将手表一次。
但这个夜晚,是否派尔近岸ืatwnngm桨。当举起勺子。似乎没有连一条鱼。他很沮丧。然而,他并没有失去希望。他再次尝试。在这段时间里,他们桨外银行。推断的尽头。沃特曼勺阻力加速度向着海滩。从而确保这不会让我失望。我有一种感觉有东西卡住弓本身。他笑了起来。

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น